คุณเคยสงสัยไหมเวลาซื้อเกจวัดแรงดันสักตัว เจ้าหน้าที่มักมีคำถามเสมอว่า “ลูกค้าใช้ Pressure Range เท่าไรคะ ?” หากคุณเคยซื้อ Pressure gauge มาก่อนคงสามารถให้คำตอบได้ทันที แต่หากคุณเพิ่งเคยซื้อเป็นครั้งแรกและสงสัยว่า Pressure range หรือย่านการวัดแรงดันคืออะไร ในบทความนี้มีคำตอบครับ
Pressure Range คืออะไร ?
ย่านการวัดแรงดัน หรือ Pressure range หมายถึง ช่วงของความดันที่เครื่องมือวัดความดันสามารถวัดได้ โดยทั่วไปแล้ว ย่านการวัดแรงดันจะระบุด้วยหน่วยความดัน เช่น บาร์ (bar) ปอนด์ต่อตารางนิ้ว (psi) หรือกิโลปาสกาล (kPa)
ตัวอย่างเช่น เกจวัดแรงดันแบบ Bourdon ที่มีย่านการวัดแรงดันตั้งแต่ 0 ถึง 10 bar สามารถวัดความดันได้ตั้งแต่ 0 bar ไปจนถึง 10 bar
ย่านการวัดแรงดันเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาในการเลือกเครื่องมือวัดความดัน เนื่องจากเครื่องมือวัดความดันแต่ละประเภทมีย่านการวัดแรงดันที่แตกต่างกัน หากเลือกเครื่องมือวัดความดันที่มีย่านการวัดแรงดันไม่เหมาะสม อาจทำให้เครื่องมือวัดความดันเสียหาย หรือไม่สามารถวัดค่าแรงดันอกมาได้อย่างถูกต้องนั่นเองครับ
อ่านเพิ่มเติม : ช่วงสเกล (Scale Range) และความแม่นยำ (Accuracy) ของเกจวัดแรงดัน EN 837
ตัวอย่างการใช้ Pressure Range ในอุตสาหกรรมและชีวิตประจำวัน
ในอุตสาหกรรมและชีวิตประจำวัน ย่านการวัดแรงดันของเครื่องมือวัดความดันที่นิยมใช้กัน ได้แก่
- ย่านการวัดแรงดันต่ำ: ใช้ในการวัดความดันต่ำ เช่น ความดันของอากาศในท่อลมยาง ความดันของน้ำในท่อประปา
- ย่านการวัดแรงดันปานกลาง: ใช้ในการวัดความดันปานกลาง เช่น ความดันของน้ำมันในเครื่องยนต์ ความดันของก๊าซในท่อส่งก๊าซ
- ย่านการวัดแรงดันสูง: ใช้ในการวัดความดันสูง เช่น ความดันของน้ำมันในหม้อไอน้ำ ความดันของก๊าซในถังเก็บก๊าซ
นอกจากนี้ ยังมีย่านการวัดแรงดันเฉพาะสำหรับการใช้งานบางประเภท เช่น
- ย่านการวัดแรงดันสุญญากาศ: ใช้ในการวัดความดันสุญญากาศ เช่น ความดันในอวกาศ
- ย่านการวัดแรงดันแตกต่าง: ใช้ในการวัดความแตกต่างของความดัน เช่น ความดันของของเหลวสองชนิดในภาชนะเดียวกัน
ผลเสียที่อาจเกิดขึ้นหากเลือกย่านการวัดแรงดันไม่เหมาะสม
ผลเสียหากเลือกย่านการวัดแรงดันมากกว่าแรงดันที่ใช้มากหรือน้อยเกินไป มีดังนี้
- ความแม่นยำในการวัดลดลง: ย่านการวัดที่กว้างขึ้น หมายถึง เข็มวัดจะเคลื่อนที่ได้น้อยลงเมื่อได้รับแรงดันที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ความแม่นยำในการวัดลดลง
- อาจทำให้อุปกรณ์เสียหายได้: หากแรงดันที่ใช้สูงเกินกว่าย่านการวัดของอุปกรณ์ อาจทำให้อุปกรณ์เสียหายได้ เช่น ท่อบูร์ดองอาจแตกหรือบิดเบี้ยวได้
- สิ้นเปลืองงบประมาณ: ในเครื่องมือวัดแรงดันบางรุ่น บางยี่ห้อ ที่มีย่านการวัดกว้าง จะมีราคาแพงกว่าอุปกรณ์ที่มีย่านการวัดแคบ
ดังนั้น จึงควรเลือกย่านการวัดแรงดันให้เหมาะสมกับแรงดันที่ใช้จริง เพื่อให้ได้ความแม่นยำในการวัดสูงและป้องกันไม่ให้อุปกรณ์เสียหาย
อ่านเพิ่มเติม : ระดับความแม่นยำ (Accuracy) สำหรับเกจวัดแรงดัน
ตัวอย่างผลเสียจากการเลือกย่านการวัดแรงดันมากกว่าแรงดันที่ใช้มากเกินไป เช่น
- หากใช้เกจวัดแรงดันที่มีย่านการวัด 0-100 PSI เพื่อวัดแรงดันลมยางรถยนต์ ซึ่งแรงดันลมยางรถยนต์ปกติอยู่ที่ประมาณ 30-40 PSI หากแรงดันลมยางเพิ่มขึ้นจนสูงเกินกว่า 40 PSI เข็มวัดจะเคลื่อนที่ได้น้อยลง ทำให้อ่านค่าแรงดันได้ยากขึ้น และอาจทำให้อ่านค่าแรงดันผิดพลาดได้
- หากใช้เกจวัดแรงดันที่มีย่านการวัด 0-100 PSI เพื่อวัดแรงดันในถังเก็บก๊าซ ซึ่งแรงดันก๊าซในถังเก็บก๊าซปกติอยู่ที่ประมาณ 100 PSI หากแรงดันก๊าซเพิ่มขึ้นจนสูงเกินกว่า 100 PSI อาจทำให้เกจวัดแรงดันเสียหายได้
สรุป
และนี่ก็คือความหมายของ Pressure Range หรือย่านการวัดแรงดัน ในการเลือกเครื่องมือวัดความดัน ไม่ว่าจะเป็น Pressure gauge, Pressure switch หรือ Pressure transmitter ให้เหมาะสมกับย่านการวัดแรงดันที่ต้องการวัด จะช่วยให้เครื่องมือวัดความดันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยครับ
Pingback: เกจวัดแรงดันอนาล็อก (Analog Pressure Gauge) คืออะไร ?
Pingback: ตัวเลือกคลาสสิค: เกจวัดแรงดันอนาล็อก Analog Pressure Gauge
Pingback: เกจวัดแรงดันดิจิตอล (Digital Pressure Gauge) | siampressure
Pingback: ท่อบูร์ดอง (Bourdon) คืออะไร ? ทำไมอยู่ในเกจวัดแรงดัน